ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมี 32 ทีมเป็นครั้งแรกในปี 1998 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ โดยแบ่งเป็นกลุ่มละ 4 ทีมทั้งหมด 8 กลุ่ม และเอาแชมป์กับรองแชมป์แต่ละกลุ่มผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนที่จะเตะระบบน็อกเอาต์ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้แชมป์ฟุตบอลโลก ขณะที่ในการจับสลากรอบสุดท้ายของแต่ละกลุ่มนั้นมีขั้นตอนพิเศษขึ้นมานิดหน่อยนั่นก็คือในแต่ละสายจะมีตัวแทนจากทวีปยุโรปไม่เกิน 2 ทีมเนื่องจากทวีปยุโรปได้โควตาฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมากที่สุด และนโยบายของฟีฟ่าก็คืออยากให้ในแต่ละสายมีการผสมผสานกันระหว่างตัวแทนจากหลากหลายทวีป
ส่วนศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเมื่อปี 2002 เป็นครั้งแรกที่มีเจ้าภาพร่วม และมาจัดขึ้นที่ทวีปเอเชีย ซึ่งมีญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วมกับเกาหลีใต้ และฟุตบอลโลกปี 2002 มีควันหลงให้เราได้กล่าวถึงอย่างมากมาย โดยที่เชื่อเหลือเกินว่าคอลูกหนังทุกคนคงไม่วายความโคตรโกงคูณสามของเจ้าภาพร่วมอย่างโสมขาว ซึ่งอาศัยความได้เปรียบจากการเป็นเจ้าภาพจนสามารถทะลุเข้ารอบตัดเชือกไปได้สำเร็จเลยทีเดียว ก่อนที่จะไปเจอเยอรมันดับซ่า และบั้นปลายเกาหลีใต้ก็ได้อันดับ 4 ไปครอง โดยฟุตบอลโลกครั้งดังกล่าวแชมป์ตกเป็นของบราซิล ซึ่งเป็นเพียงชาติเดียวที่เข้าร่วมการแข่งขันศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายทุกสมัย ขณะที่เยอรมันเป็นอีกหนึ่งทีมที่จัดได้ว่าตบเท้าเข้ารอบชิงชนะเลิศได้มากที่สุดเลยทีเดียว
ทางด้านเหตุการณ์ประทับใจนั้นมันมักจะเกิดขึ้นในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแทบทุกครั้ง แต่ที่อื้อฉาวที่สุดก็คงเป็นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 1986 ทีมเม็กซิโกเป็นเจ้าภาพ และมีตำนาน “Hand of god” หรือ “หัตถ์พระเจ้า” ที่ดีเอโก้ มาราโดน่าฝากรอบแผลลึกนี้เอาไว้กับอังกฤษในรอบตัดเชือกด้วยการใช้มือปัดบอลเข้าประตูไป แต่ลูกที่สองของมาราโดน่าต้องยกย่องให้เป็นขั้นเทพจากการลากตะลุยฝ่าแข้งอังกฤษไปหลายต่อหลายคนแล้วส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายอย่างหมดจด ขณะเดียวกันลูกยิงของเจฟฟ์ เฮิร์สท์ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่จนถึงตอนนี้ว่าลูกมันข้ามเส้นประตูไปหรือยัง
คราวนี้เรามาพูดถึงราชาลูกหนังไร้มงกุฎกันดีกว่า โดยรายแรกเป็นโยฮัน ครัฟฟ์ที่กวาดแชมป์มาหมดทุกรายการในสมัยค้าแข้ง แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงดวงดาวไม่สามารถนำทีมชาติฮอลแลนด์คว้าแชมป์ได้สำเร็จในยุคของเขาเลย ขณะที่อีกคนนั้นคงเป็นที่คุ้นหูกันดีนั่นก็คือลีโอเนล เมสซี่ ซึ่งมหาเทพลูกหนังยุคปัจจุบันรายนี้ก็มีชะตะไม่ต่างไปจากโยฮัน ครัฟฟ์กวาดแชมป์ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ แต่ว่ายังไม่มีวาสนาได้ชูถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลกกับเขาเสียที โดยเมสซี่ท้อจนขนาดถึงขั้นประกาศอำลาทีมชาติไปแล้ว ก่อนที่จะถูกเกลี้ยกล่อมให้กลับมาเล่นให้ทีมฟ้าขาวอีกครั้ง และในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2022 เราคงต้องมาคอยลุ้นกันว่าเมสซี่จะทำได้สำเร็จหรือไม่เนื่องจากน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของเขาเมื่อดูจากอายุอานามแล้ว อย่างไรก็ดีเราคงต้องลุ้นอีกหนึ่งเด้งนั่นก็คือปี 2022 ที่กาตาร์เป็นเจ้าภาพจะถูกเลื่อนเหมือน “ยูโร 2020” หรือไม่ ซึ่งถูกพิษโควิดเล่นงานจนต้องเลื่อนไปแข่งขันกันในช่วงกลางปีหน้า